คำถามที่พบบ่อย

คำถามที่น่าสนใจ เป็นความรู้เบื้องต้นสำหรับผู้ประกอบการ
ที่ต้องการเปิดบริษัทฯ รวบรวมไว้ให้แล้วที่นี่

คำถามที่น่าสนใจ เป็นความรู้เบื้องต้นสำหรับผู้ประกอบการ ที่ต้องการเปิด
บริษัทฯ รวบรวมไว้ให้แล้วที่นี่

คำถามที่น่าสนใจ เป็นความรู้เบื้องต้น
สำหรับผู้ประกอบการ ที่ต้องการเปิด
บริษัทฯ รวบรวมไว้ให้แล้วที่นี่

คำถามที่พบบ่อย

ณ วันจดทะเบียนบริษัท ต้องมีเงินทุนเท่าไร ?

ทุนในการ จดทะเบียนบริษัท กรมพัฒน์ไม่ได้มีการกำหนดขั้นต่ำ แต่กำหนดแค่เพียงว่าต้องมีผู้ถือหุ้นเพื่อจัดตั้งบริษัทตอนยื่นขอจดทะเบียนบริษัท อย่างน้อย 3 คน และราคาต่อหุ้นต้องไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 5 บาท ดังนั้น ทุนขั้นต่ำในการเริ่มจัดตั้งบริษัทจึงเท่ากับ 15 บาท โดย ณ วันที่จัดตั้งผู้ถือหุ้นต้องชำระเงินตามจำนวนทุนที่จดทะเบียนเข้ามาในบริษัท อย่างน้อย 25% ของทุนทั้งหมด สมมุติแจ้งทุนจดทะเบียนไว้ 1,000,000 บาท เราต้องชำระค่าหุ้นขั้นต่ำ 25% เป็นจำนวนเงิน 250,000 บาท

จดทะเบียนบริษัท ต้องมีทุนจริงหรือไม่ ?

การ จดทะเบียนบริษัท ไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนจริงตามที่ขอจดทะเบียน เพราะเวลาที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร ไม่ได้มีการเช็กเงินสด หรือเงินฝากธนาคารที่ชำระทุนเข้าบริษัทจริง แต่จะขอดูเอกสารใบรับชำระค่าหุ้น ณ ตอนส่งเอกสาร เพราะฉะนั้นถึงแม้เราจะไม่มีเงินสักบาทก็สามารถขอจดทะเบียนบริษัทได้ แต่ในกรณีที่ทุนจดทะเบียนเกิน 5,000,000 บาท หรือมีชาวต่างชาติร่วมถือหุ้นในบริษัทด้วย ก็จำเป็นจะต้องมีเงินทุนจริงๆ ตั้งแต่ ณ วันที่จดบริษัท เนื่องจากถ้าเข้าตามเกณฑ์ข้างต้น จะมีการตรวจสอบเงินทุนที่ชำระ โดยผู้ขอจดทะเบียนจะต้องยื่นหลักฐานว่ามีเงินจริงตามที่จดทะเบียน เพื่อป้องกันการแอบอ้างจดทะเบียนบริษัทด้วยทุนหลายร้อยล้านบาทให้ดูมีความน่าเชื่อถือ แล้วไปหลอกลวงประชาชน จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบ

ควร จดทะเบียนบริษัท ด้วยทุนเท่าไร ?

บริษัทจำกัด หุ้นจะต้องมีราคาไม่น้อยกว่าหุ้นละ 5 บาท ต่อ 1 หุ้น และมีหุ้นจดทะเบียนอย่างน้อย 3 คน ดังนั้น ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำสุดของบริษัทก็คือ 15 บาท สามารถจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทได้ แต่เพื่อความน่าเชื่อถือ ควรมีเงินทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ 100,000-1,000,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจ

ห้างหุ้นส่วน เนื่องจากกฎหมายไม่ได้กำหนดทุนขั้นต่ำสำหรับห้างหุ้นส่วน ดังนั้น จึงทำให้ผู้ขอจดทะเบียนแบบห้างหุ้นส่วน สามารถตั้งทุนจดทะเบียนเท่าไรก็ได้ ซึ่งอาจลงทุนด้วยเงิน ทรัพย์สิน และแรงงานเป็นทุนจดทะเบียน แต่การลงทุนด้วยแรงงานจะต้องเป็นการลงทุนแบบไม่จำกัดความรับผิด ซึ่งหมายความว่า หากมีหนี้เกิดขึ้นระหว่างประกอบธุรกิจ หุ้นส่วนที่ลงทุนแบบไม่จำกัดความรับผิดชอบ ต้องรับผิดชอบในหนี้ทั้งหมดของห้างหุ้นส่วน

จดทะเบียน “บริษัทจำกัด” กับ “ห้างหุ้นส่วนจำกัด” ต่างกันอย่างไร ?

บริษัทจำกัด จะต้องมีผู้ร่วมลงทุน หรือผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป แบ่งทุนออกเป็นหุ้นละเท่าๆ กัน หุ้นจะต้องมีราคาไม่น้อยกว่าหุ้นละ 5 บาท ต่อ 1 หุ้น ทุนขั้นต่ำ 15 บาท ผู้ถือหุ้นจำกัดความรับผิดชอบเพียงเงินค่าหุ้นที่ยังไม่ได้ชำระ การประชุมสามัญประจำปี จะต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นทุกปี งบการเงิน ตรวจสอบโดย CPA (ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต) อัตราภาษีสูงสุด 20% เท่ากัน

ห้างหุ้นส่วนจำกัด จะต้องมีผู้ร่วมลงทุน หรือหุ้นส่วนอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป ไม่มีการกำหนดทุนขั้นต่ำ ผู้ถือหุ้นมี 2 แบบคือ จำกัดความรับผิดชอบ คือรับผิดชอบตามเงินลงทุน และไม่จำกัดความรับผิดชอบ คือรับผิดชอบหนี้สินทั้งหมด ไม่ต้องประชุมหุ้นส่วนประจำปีก็ได้ งบการเงิน ตรวจสอบโดย CPA (ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต) หรือ TA (ผู้สอบบัญชีภาษีอากร) สำหรับห้างหุ้นส่วนขนาดเล็ก

ผู้เริ่มก่อตั้งบริษัท ต้องเป็นผู้ถือหุ้นตอนตั้งบริษัทด้วยหรือไม่ ?

ผู้เริ่มก่อตั้งบริษัททุกคน ต้องเป็นผู้ถือหุ้นตั้งแต่ตอนตั้งบริษัทด้วย และถือหุ้นอย่างน้อยคนละหนึ่งหุ้น

เด็กเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทได้ไหม ?

หากเด็กมีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป และลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียนและเอกสารประกอบด้วยตนเองได้ สามารถเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทได้

กรรมการบริษัทต้องมีกี่คน ?

บริษัทจำกัด มีกรรมการตั้งแต่ 1 คนขึ้นไปจนถึงกี่คนก็ได้ ไม่จำกัดจำนวน
บริษัทมหาชน มีกรรมการมากเท่าไรก็ได้ แต่ห้ามน้อยกว่า 5 คน
ปกติแล้วหากมีการกำหนดจำนวนกรรมการไว้ในข้อบังคับของบริษัท การแต่งตั้งกรรมการก็ต้องเป็นไปตามนั้น แต่ถ้าบริษัทไม่ได้กำหนดจำนวนกรรมการไว้ในข้อบังคับของบริษัท การแต่งตั้งกรรมการให้เป็นไปตามมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น ในการกำหนดว่ากรรมการของบริษัทจะมีกี่คน

1 ใน 3 ของผู้เริ่มก่อตั้งบริษัท ต้องเป็นกรรมการตอนตั้งบริษัทด้วยหรือไม่ ?

1 ใน 3 ของผู้เริ่มก่อตั้งบริษัท ไม่จำเป็นต้องเป็นกรรมการตั้งแต่ตั้งบริษัทก็ได้ เว้นเสียแต่ว่าในที่ประชุม เลือกตั้ง

จดทะเบียนบริษัท ที่มีผู้ถือหุ้นเป็นต่างชาติต้องทำอย่างไร ?

การจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทยสำหรับชาวต่างชาติ มี 2 กรณี
กรณีที่ 1 การจดทะเบียนบริษัท สัญชาติไทย คือ คนไทย ถือหุ้นอย่างน้อย 51% และคนต่างชาติ ถือหุ้นไม่เกิน 49% โดยสามารถประกอบธุรกิจได้ทุกอย่างตามที่กฏหมายกำหนด
กรณีที่ 2 การจดทะเบียนบริษัท สัญชาติอื่น คือ คนต่างชาติ ถือหุ้น 50-100% จะต้องขอเป็นใบประกอบธุรกิจต่างด้าวแทน
หมายเหตุ : หากคนต่างชาติถือหุ้นในบริษัทจำกัด ตั้งแต่ 40-49% หรือต่ำกว่า 40% ของทุนจดทะเบียน แล้วเป็นผู้มีอำนาจลงนามหรือทำการแทนบริษัทจำกัดด้วยทางผู้ถือหุ้นที่มีสัญชาติไทยทุกคนจะต้อง นำส่งหลักฐานแสดงที่มาของเงินลงทุนและต้องสอดคล้องกับเงินทุนที่ชำระแล้วของผู้ถือหุ้นแต่ละรายด้วย
หลักฐานแสดงที่มาของเงินลงทุน มีดังนี้
ทั้งนี้ ให้แนบสำเนาหนังสือเดินทางของกรรมการต่างชาติที่มีอำนาจลงนามในคำขอจดทะเบียนมาด้วย เพื่อใช้เป็นเอกสารประกอบการจดทะเบียน

คำขอ จดทะเบียนบริษัท ต้องยื่นภายในกี่เดือน ?

คำขอ จดทะเบียนบริษัท ต้องยื่นขอ จดทะเบียนบริษัท ภายใน 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ประชุมตั้งบริษัท

ข้อกำหนดการตั้งชื่อบริษัท เพื่อใช้จดทะเบียนบริษัท ?

ก่อนจะขอ จดทะเบียนบริษัท เราจะต้องตั้งชื่อบริษัทเสียก่อน ซึ่งควรใช้ชื่อที่สั้นและเข้าใจง่าย รวมถึงไม่ใช้คำหยาบคาย หลีกเลี่ยงชื่อที่เกี่ยวข้องกับ ราชวงศ์ และหน่วยงานราชการ เพราะตามหลักเกณฑ์การจองชื่อนิติบุคคล ได้ระบุไว้ว่าจะต้องไม่มีข้อความที่เกี่ยวข้องดังนี้

มีชื่อบริษัทแล้ว สามารถขอจดทะเบียนบริษัทได้เลยหรือไม่ ?

หลังจากคิดชื่อบริษัทได้เรียบร้อยแล้ว เราจะต้องทำการจองชื่อบริษัทให้ผ่านก่อน จึงจะสามารถนำชื่อที่ได้รับอนุญาตไปขอจดทะเบียนบริษัท โดยสามารถยื่นจองผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ตที่

จองชื่อบริษัทได้ครั้งละกี่ชื่อ ?

สามารถจองได้ครั้งละ 1 ชื่อ

ใครเป็นผู้ยื่นขอจองชื่อบริษัท ?

ผู้ที่สามารถยื่นขอจองชื่อนิติบุคคลได้คือ
ในกรณียื่นคำขอจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิ และจดทะเบียนบริษัทพร้อมกันภายในวันเดียว สามารถให้ผู้ถือหุ้นเป็นผู้จองชื่อได้ หรือในกรณีจองชื่อนิติบุคคลเพื่อจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อ
ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ให้ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือกรรมการเป็นผู้จองชื่อได้ แต่บุคคลนั้นต้องเป็น
ผู้ลงนามในใบอนุมัติจองชื่อดังกล่าว

จองชื่อบริษัทใช้เวลากี่วันจึงรู้ผล ?

การจองชื่อบริษัทใช้เวลาประมาณ 1-2 วันทำการ โดยนายทะเบียนจะแจ้งผลการจองกลับมา
ทาง e-mail หรือผู้ประกอบการสามารถเข้าไปตรวจได้ทางเว็บไซต์ www.dbd.go.th
คลิกที่เมนู “ผลการจองชื่อ”

ชื่อบริษัทที่จองได้แล้ว หากยังไม่ไปขอจดทะเบียนบริษัท จะหมดอายุหรือไม่ ?

เมื่อนายทะเบียนตรวจสอบชื่อที่จอง และอนุญาตให้จองได้ ผู้ขอจดทะเบียนต้องยื่นขอจดทะเบียนบริษัท ให้เสร็จภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่มีคำสั่งอนุญาตจองชื่อผ่าน

ชื่อบริษัทที่จองได้แล้ว แต่ไปยื่นขอจดทะเบียนบริษัทไม่ทัน สามารถใช้ชื่อเดิมได้หรือไม่ ?

เมื่อชื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตแล้วเกิดหมดอายุ เพราะไปขอจดทะเบียนบริษัทเกิน 30 วัน
จะยังสามารถใช้ชื่อเดิมได้ หากเช็กแล้วว่าชื่อบริษัทเดิมนี้ยังไม่มีใครนำไปใช้ จากนั้นให้ทำการจองใหม่ตั้งแต่ขั้นตอนแรกเหมือนเดิมทุกอย่างอีกครั้ง

สถานที่เช่าใช้จดทะเบียนบริษัทได้หรือไม่ ?

สถานที่เช่าสามารถนำมาใช้จดทะเบียนได้ แต่ต้องใช้เอกสารสัญญาเช่า บัตรประชาชน
สำเนาทะเบียนบ้านผู้ให้เช่า โดยทำสัญญาเช่าให้ชัดเจน แต่ถ้าเป็นเจ้าของเองก็ต้องทำ
หนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่เป็นสถานประกอบการ

ต้องมีตรายางเพื่อใช้ในการจดทะเบียนบริษัทหรือไม่ ?

เนื่องจากกฎหมายไม่ได้มีกำหนดว่าต้องมีตรายางหรือตราประทับ ดังนั้น ในการยื่น
ขอจดทะเบียนบริษัทจะมีตรายางหรือตราประทับหรือไม่ก็ได้

จดทะเบียนบริษัทจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ?

บริษัทจำกัด ใช้เอกสารในการจดทะเบียน ดังนี้
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ใช้เอกสารในการจดทะเบียน ดังนี้

จดทะเบียนบริษัทที่ไหนได้บ้าง ?

สามารถขอจดทะเบียนด้วยตนเองผ่านช่องทางออนไลน์ (E-registration) ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า dbd.go.th ได้ หรือยื่นขอจดทะเบียนรูปแบบเอกสารได้ที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเขตใกล้บ้าน หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ทุกจังหวัดทั่วทั้งประเทศ สำหรับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในกรุงเทพฯ ได้แก่

ค่าธรรมเนียมจดทะเบียนบริษัทและห้างหุ้นส่วนจำกัดเท่าไร ?

บริษัทจำกัด
รวมเป็นเงิน 6,200 บาท ทั้งนี้ อาจมีค่าตรวจเอกสารเพิ่มเติม 50 บาท

วันที่ไปยื่นจดทะเบียนเตรียมเอกสารไปไม่ครบ จะถือว่าคำขอจดทะเบียนนั้นเป็นโมฆะหรือไม่ ?

คำขอจดทะเบียนที่ได้ทำเรื่องขอจดทะเบียนไปแล้ว แต่เอกสารนำไปไม่ครบ คำขอนั้นจะยังคงอยู่ไม่ถือเป็นโมฆะ เจ้าของกิจการสามารถจัดเตรียมเอกสารให้ครบแล้วนำมายื่นใหม่ได้

จดทะเบียนบริษัททำด้วยตนเอง หรือจ้างบริษัทรับจดทะเบียนดีกว่า ?

เจ้าของกิจการสามารถจดทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ (E-registration) ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า dbd.go.th หรืออาจจัดเตรียมเอกสารและไปยื่นด้วยตนเองก็ได้ แต่อาจจะวุ่นวายเพราะต้องกรอกข้อมูลหลายขั้นตอน ซึ่งถ้าผู้ประกอบการไม่อยากเสียเวลาหรือไม่อยากวุ่นวายในขั้นตอนและเอกสาร ก็สามารถจ้างสำนักงานบัญชีให้ทำเรื่องยื่นขอจดทะเบียนบริษัทให้ได้เช่นกัน

เมื่อจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลแล้ว จะต้องเสียภาษีอย่างไร ?

เมื่อจดทะเบียนบริษัทในรูปแบบของนิติบุคคล จะต้องเสียภาษีตามภาษีเงินได้นิติบุคคล ซึ่งถ้าเป็นบริษัททั่วไป จะเสียภาษีอยู่ในอัตรา 20% ของกำไรสุทธิที่ต้องเสียภาษี แต่ถ้าหากเป็นบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้ไม่เกิน 30 ล้านบาท จะได้รับสิทธิ์เสียภาษีรูปแบบ SMEs ดังนี้